เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ อธิบดีกรมพิธีการทูต และนางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอล Thailand - UK 170 Football Tournament เนื่องในโอกาสครบรอบ 170 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สหราชอาณาจักร ณ สนามฟุตบอล Polo Football Park โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายมาร์ก กุดดิง เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ร่วมกล่าวเปิดงาน

เมื่อวันที่ 26-28 มิถุนายน 2568 ดร. ลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย พร้อมคู่สมรส 45 คน จาก 32 ประเทศ เข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานภายใต้หัวข้อ “Weaving towards Sustainability” ณ จังหวัดสกลนคร และนครพนม ในวันแรกของการศึกษาดูงาน (26 มิถุนายน 2568) ในช่วงเช้า คณะฯ ได้เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวต้อนรับ โดยคณะฯ ได้ศึกษาดูงานและเข้าร่วมกิจกรรมตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ การทำนาและพัฒนาพันธุ์ข้าว และการพัฒนาพันธุ์สัตว์ ในช่วงบ่าย คณะฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุป ตลอดจนได้มีโอกาสลองการย้อมสีครามและการทำเทคนิคผ้ามัดย้อมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย ซึ่งเป็นโครงการชุมชนต้นแบบตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ภายใต้แนวคิด “แฟชั่นแห่งความยั่งยืน (Sustainable Fashion)“ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการนำภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาผสมผสานกับแฟชั่นร่วมสมัยเพื่อพัฒนาสู่ระดับสากล กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมพิธีการทูตได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทึ่เกี่ยวข้องทั้งจากส่วนกลางและในพืันที่ดำเนินโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งคณะทูตและกงสุลต่างประเทศได้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะวิถีชีวิตชุมชน และศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 21 - 23 สิงหาคม 2568 นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ อธิบดีกรมพิธีการทูต และคณะจากกรมพิธีการทูต ได้เดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินโครงการกรมพิธีการทูตสัญจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของคณะผู้แทนทางทูต ทางกงสุล และองค์การระหว่างประเทศ ต่อการดำเนินงานของหน่วยงานราชการไทย และประชาสัมพันธ์โครงการ e-Protocol ประจำปี 2568 โดยได้พบหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการอำนวยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตและทางกงสุลกับนายอะฮ์มัด ฟะฮ์มี บิน อะฮ์มัด ซาร์กาวี กงสุลใหญ่มาเลเซีย ณ จังหวัดสงขลา นายจื้อเจียน วัง กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา และนายโมฮัมหมัด ริซกี ซาฟารี กงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลาทำให้คณะได้ทราบถึงปัญหาและข้อห่วงกังวลในเรื่องต่าง ๆ ของสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศในจังหวัดสงขลาทั้ง 3 แห่ง ซึ่งกรมพิธีการทูตจะได้หาแนวทางเพื่อให้การอำนวยด้านเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป ในโอกาสดังกล่าว อธิบดีกรมพิธีการทูตและคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดกับกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ และจัดการประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดสงขลา และการบรรยายภาพรวมภารกิจของกรมพิธีการทูต เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการอำนวยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลให้แก่ผู้แทนทางกงสุลต่างประเทศในจังหวัดสงขลา รวมทั้งได้สำรวจพื้นที่ที่จะจัดสรรสำหรับเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลต่างประเทศ

         เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดงานสัมมนา “การเตรียมการรับรองการเยือนของบุคคลสำคัญต่างประเทศและการเป็นเจ้าภาพการประชุมระหว่างประเทศของไทยในปี ๒๕๖๘” ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการรับรองและอำนวยความสะดวกบุคคลสำคัญต่างประเทศกว่า ๓๐ หน่วยงานเข้าร่วมการสัมมนา

เมื่อวันที่ 12 - 13 กันยายน 2568 นายอรรถพงศ์ พันธุ์รัตน์ นักการทูตชำนาญการพิเศษ นำคณะเจ้าหน้าที่กรมพิธีการทูตเดินทางเยือนจังหวัดขอนแก่นตามโครงการกรมพิธีการทูตสัญจร ประจำปี ๒๕๖๘ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของคณะผู้แทนทางทูต ทางกงสุล และองค์การระหว่างประเทศต่อการดำเนินงานของหน่วยงานราชการไทย และประชาสัมพันธ์โครงการ e-Protocol ประจำปี 2568 โดยได้พบหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการอำนวยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตและทางกงสุลกับคณะผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรู สถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงงานอำนวยด้านเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ให้มีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับแนวทางสากลยิ่งขึ้น