การนำคณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทย ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2567 ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

การนำคณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทย ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2567 ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

วันที่นำเข้าข้อมูล 2 ก.พ. 2567

| 868 view
เมื่อวันที่ ๑๙ - ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้บริหารกระทรวงฯ นำโดยนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารของกรมพิธีการทูตได้นำคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรส จำนวน ๖๐ คน จาก ๔๐ ประเทศ เดินทางไปทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตร  ต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2567 ณ จังหวัดเชียงราย 
 
โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งเพื่อให้คณะทูตฯ ได้ประจักษ์ถึงคุณูปการ และพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการสำคัญ ดังนี้ 
 
๑. ศูนย์เรียนรู้พื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน (CLM) ดอยอินทรีย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่น้อมนำแนวทางการพัฒนาพื้นที่ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีผลเป็นรูปธรรมของศูนย์ฝึกโรงเรียนจิตอาสา 904 มาประยุกต์ใช้โดยใช้ทรัพยากรในพื้นที่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในท้องถิ่น 
 
๒. โครงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องบอน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยคณะทูตฯ ได้รับทราบการดำเนินงานของทุกภาคส่วนของประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่เป็นกลางทางคอร์บอน (Carbon Neutrality) ภายใน ค.ศ. ๒๐๖๕
 
๓. โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยคณะทูตฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการการพัฒนาทางเลือกในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ซึ่งมีคนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์และการพัฒนาอาชีพของโครงการพัฒนาดอยตุงซึ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ Zero Waste to Landfill 
 
นอกจากนี้ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลก โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ (City of Design) เมื่อปี ๒๕๖๖ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกันจัดกำหนดการให้คณะทูตฯ เยี่ยมชมงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “Thailand Biennale, Chiang Rai 2023” ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก” 
 
คณะทูตฯ มีความรู้สึกประทับใจที่ได้ร่วมกิจกรรมสำคัญ โดยไม่เพียงประจักษ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ไทยต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต พสกนิกรชาวไทยผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลายสาขาแล้ว คณะทูตฯ ยังได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับบริบทประเทศไทยในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านศักยภาพทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งได้สัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการใช้พลังสร้างสรรค์ หรือ soft power เป็นพลังขับเคลื่อนสถานะและบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ 
 
อนึ่ง กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินโครงการนำคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยและคู่สมรสเดินทางไปทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความผูกพันของสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนไทย นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสให้คณะทูตฯ ได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่และอัตลักษณ์ท้องถิ่นของไทย รวมทั้งเปิดโอกาสให้คณะทูตฯ ได้มีปฏิสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ